My Blog / My Girl / My Cat

My Blog / My Girl / My Cat

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แนะนำเกมส์ของ PSP PS2 2

เกมส์ที่เจ็ด [Pangya Fantasy Golf]
เกมส์ออนไลน์จากเครื่องพีซีที่หลายคนรู้จักกันดี
ซึ่งภาคนี้จะต่างจากภาคพีซี คือ ตรงที่ออนไลน์ไม่ได้ แต่สามารถเล่นกับเพื่อนได้แปดคน
เกมส์นี้ออกภาคอังกฤษมาแล้ว แน่นอนว่าอ่านเนื้อเรื่องได้ง่าย
ภาคนี้จะมีตัวละครที่ชื่อว่า เซียนด้วย ซึ่งภาคธรรมดาจะไม่มี
[ลองสังเกตดูนิดๆ ว่าตัวละครหญิงภาคนี้จะ No Bra]
เกมส์ที่แปด [2010 Fifa World Cup South Africa]
เกมส์ที่มาตรงกระแสของฟุตบอลโลก
ไม่รู้อธิบายยังไง เพราะมันก็ระบบเหมือนเกมส์ฟุตบอลทั่วไป

เกมส์ที่เก้า [Queen Blade]
เกมส์นี้เป็นเกมส์ต่อสู้ 2d แนว RPG
เกมส์นี้มีจุดเด่นคือ "ยิ่งฟันยิ่งหลุดลุ่ย"
คือเมื่อโดนโจมตีเสื้อผ้าก็จะขาด
[เกมส์นี้จะออกแนวติดเรทนะครับ]

เกมส์ที่สิบ [Harvest Moon : Hero Of Leaf Valley]
เกมส์ปลูกผักที่หลายคนรู้จักกันดี
ภาคนี้จะพัฒนาจากภาคของ PS2
ที่ชื่อ Save the Homeland
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกมส์น่าลอง


อนิเมะแนะนำ

เรื่องที่หนึ่ง [11 eyes]
เคยลงเป็นเกมส์ใน PSP และ Xbox 360
อนิเมะที่สร้างจาก visual novel เกี่ยวกับเด็กหนุ่มนาม คาเครุ ซัทสึกิ
ที่อาศัยอยู่กับน้องแค่สองคน อยู่มาวันหนึ่งเขาและเพื่อนอีกห้าคนได้ถูกส่งข้ามไปยังอีกมิติหนึ่ง
ที่ซึ่งมีดวงจันทร์สีดำตระหง่านบนฟากฟ้า โดยทั้งหกคนต้องต่อสู้กับอัศวินสีดำทั้งหก
เพื่อให้พวกเขาทั้งหมดกลับไปยังโลกปัจจุบันได้


















เรื่องที่สอง [Spice Wolf 1&2]
"Spice and Wolf " (狼と香辛料,) ที่มาจากนิยายติดอันดับ 1
(อ้างอิงจาก หนังสือจัดอันดับไลท์โนเวล "Kono light novel wa sugoi'07")
เกี่ยวกับ พ่อค้าเร่ "คราฟท์ ลอว์เรนซ์" (Craft Lawrence)
บังเอิญไปเจอกับ เทพหมาป่าสาว "โฮโร" (Horo) ที่ต้องการจะกลับไปยังบ้านเกิดทางเหนือ
หลังจากที่คิดว่า ตัวเองไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน
ว่าด้วยการทำให้เหล่าข้าวสาลีอุดมสมบูรณ์ อีกต่อไป












เรื่องที่สาม [คาโนค่อน]
เป็นเรื่องที่มีบนมังงะด้วย
เป็น เรื่องราวเกี่ยวกับ มินาโมโต้ ชิสึรุ จิ้งจอกสาวสวย x sexy สุดๆจนผู้ชายทั้งเมืองต้องมองเหลียวหลัง แอบมาอยู่ในสังคมมนุษย์ในคราบของเด็กผู้หญิงระดับดาวโรงเรียน กับ โอยามาดะ โคตะ เด็กผู้ชายหน้าตาแนวโชตะ อ่อนต่อโลก เพิ่งย้ายมาจากชนบท ทำให้ดูเป็นปมด้อยให้เพื่อนล้ออย่างสนุกสนา้น เหตุเกิดเมื่อจิ้งจอกสาวตกหลุมรักโคตะคุงเข้าอย่างจังๆ และมีทีท่าเป็นฝ่ายรุกด้วย ทำให้คนที่พบเห็นอิจฉาตาร้อนไปตามๆกัน เรื่องราวก็เข้มข้นขึ้น หลังจากความลับที่ถูกซ่อนไว้ ถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาโคตะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้โชคชะตาของโคตะต้องเผชิญกับความวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ไหนจะสายตาของผู้ชายในโรงเรียน ไหนจะยังน้องชายเจ้าปัญหาของชิสึรุอีก และก็ยังมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกนับไม่ถ้วน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตามในอนิเมได้เลยครับ

















เรื่องที่สี่ [Kohime Musuo]
 เรื่อง นี้เริ่มขึ้นเมื่อ "กวนอู" มือพิฆาตโจรที่ออกปราบผู้ร้ายได้เดินทางมายังเมืองหนึ่งซึ่งเธอได้รู้เรื่อง ราวของ "เตียวหุย" หรือ Ling Ling ซึ่งเป็นโจรเด็กที่นำเด็กในหมู่บ้านเตรียมออกจับเตียวหุย แต่ด้วยความกลัวจะเกิดการกระทำโดยกว่าเหตุ กวนอูจึงอาสาไปจับตัวมาเอง กวนอูนั้นปะทะกับเตียวหุย และหลังจากการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ (กวนอูน่าจะออมมือให้) เธอได้บอกว่า เธอเสียคนในครอบครัวจากผู้ร้ายเช่นกัน เตียวหุยนั้นรู้สึกไม่มั่นคง จึงร้องให้และยอมแพ้ จากนั้นเธอก็เปิดใจและยกกวนอูให้เป็นพี่สาว และปิดฉากชีวิตที่ถูกความเหงาเกาะกินของเธอ











เรื่องที่ห้า [Rozen Maiden ภาค 1+ ภาค 2]
เด็กผู้ชายประหลาดที่หลบหนีจากโลกความจริง โดยหมกตัวแต่ในห้องเปิดเวปหาของแปลกๆ
จำพวกคุณไสยต่างๆแล้วสั่งซื้อมา และเขาได้กล่องซึ่งบรรจุกระเป๋าลึกลับ
เมื่อเปิดมาก็ได้พบกับ Rozen Maiden ที่ส่งตุ๊กตาที่น่ารักแต่ดันมีชีวิตนาม ชินคุ
หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องวุ่นๆมากมายและจุนก็เริ่มปรับตัวมากขึ้น
จุดประสงค์ที่สร้างตุกตาขึ้น คงต้องติดตามกันเอาเองนะครับ..















เรื่องที่หก [Goshuushou-Sama]
นิโนมิยะคุง นักเรียนผู้มีความอึด ได้พบเจอกับเด็กปริศนาที่มีพลังของปีศาจ Succubus

ที่สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามให้หลงใหลในตัวผู้ใช้ แต่กลับเป็นโรคกลัวผู้ชาย โดยที่นิโนมิยะคุงพระเอกของเราก็ต้องปกป้องหญิงสาวคนนี้จากผู้ชายคนอื่น
ทั้งภายในและทุกแห่งและต้องฝึกพิเศษเพื่อทำให้หญิงสาวหายจากโรคกลัวผู้ชาย
และเหตุต่างๆ ก็เป็นดังโชคชะตาทำให้พวกเค้าได้มาพบกันอีก

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เรื่องที่เจ็ด [Happiness!]
อีกหนึ่งอนิเมที่มาจากเกมติดเรท แนว Comedy,Magic,Romantic

แล้วคุณจะรู้ว่า ตัวประกอบก็ดังได้ อิอิ...
นู๋จุน ที่หลายๆ คนหลงใหล



















เรื่องที่แปด [Akikan!]
Akikan นี้เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าคาเครุ ไดจิ

และเหล่าน้ำโซดารสเมลอนที่เขาซื้อมาจากตู้ขายน้ำอัตโนมัติ
แต่ว่ากระป๋องที่เขาซื้อมานั้นล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดา เพราะว่ากระป๋องหรือ "Akikan"
ทั้งหลายนั้นดันกลายร่างเป็นสาวสวยได้ แถมเหล่าสาวๆ อาคิคัง
นั้นต้องเติมพลังงานคาร์บอนไดอ็อกไซค์จากการจูบอีกด้วย รับประกันงานนี้เซอร์วิสตรึ้ม















เรื่องที่เก้า [Eden of the East]
ใน 22 พฤจิกายน 2010 มีมิสไซย์จำนวน 10 ลูกได้โจมตีประเทศญี่ปุ่น ยังไงก็ดีนี่เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายที่ไม่เคยพบมาก่อน ต่อมาจึงถูกเรียกว่า “วันจันทร์อันแสนสะเพร่า” (ในซัพบ้างเจ้าจะัเรียกว่า “วันจันทร์อันแสนเลินเลิอ”) และไม่มีเหยื่อจากเหตุการณ์อย่างชัดเจนและแน่นอนว่าถูกลืมจากทุกคนไปอย่างรวดเร็ว… ซากิ โมริมิ (Saki Morimi) หญิงสาวที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในกลุ่มท่องเที่ยวจบการศึกษา.แต่ตอนนี้เธออยู่ที่หน้าทำเนียบขาววอชิงตันดีซี เธอกับพบกับปัญหาเล็กน้อย และนั้นมีการช่วยเหลือจากเพื่อนชาติของเธอผู้ชายคนนี้แนะนำตัวเองว่าเขาชื่อว่า อากิระ ทากาซาวะ (Akira Takizawa) ซึ่งตัวเขาเป็นปริศนา เขาไม่มีเงินและเปลือย!!! ยกเว้นปืนและโทรศัพท์ในมือของเขา และโทรศัพท์ในมือของเค้านั้นมีเงินดิจิตอน 8,200,000,000 เยน
















เรื่องที่สิบ [White Album]
ในปี 1986 ช่วงที่ญี่ปุ่นอยู่ในภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่

เรื่องราวของนักร้องสาวไอดอลน้องใหม่ในวงการคนหนึ่ง Morikawa Yuki
ที่ภายหลังจากเรียนจบโรงเรียนมัธยมแล้ว เธอจะใช้ชีวิตอย่างไร ในฐานะที่เป็นไอดอล
เพิ่งเปิดตัวด้วยเพลงแรกของเธอไป
หมาดๆ และในฐานะที่เป็นแฟนสาวกับ Fujii Touya
ซึ่งมีทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย (และเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง) ปะปนกันไป และยังมี
เพื่อนที่เป็นรุ่นเดียวกันในวงการอย่าง Ogata Rina ซึ่งเป็นนักร้องสาวไอดอลระดับต้นๆอีก
เธอคนนี้จะเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้
หรือจะเป็นคู่แข่งที่เป็นอุปสรรคทั้งการงานและความรักกันแน่

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

แนะนำเกมส์ของ PSP และ PS2

เกมส์ที่หนึ่ง PSP [Tales of VS]

เกมส์ที่รวมเอาตัวละครของ เกมส์ตระกูล Tales of  มาต่อสู้กันแบบไม่ใช่ อาร์พีจี
เป็นระบบสามมิติ
ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการขายของภาค อังกฤษ


เกมส์ที่สอง PS2 [Radiata Stories]
เกมแนวอาร์พี่จีล้วนๆ ซึ่งเป็นแนวธรรมดา แต่มีจุดเด่นคือเนื้อเรื่องแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
และตัวละครที่สามารถเลือกมาใช้ในปาร์ตี้ได้ถึง หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ดตัว
แต่... การเล่นแบ่งเป็นสองฝ่ายทำให้ตัวละครที่เลือกจะถูกลดลง
เช่น ถ้าเลือกฝ่ายภูติ ตัวละครฝ่ายมนุษย์จะหายไปหมด
ข้อเสียของเกมส์นี้มีอยู่มาก (เพราะมันคือ PS2 )เช่น
ระบบกิลด์ และ อาชีพ ที่ไม่สามารถเลือกได้
ท่าไม้ตายของอาวุธแต่ละประเภทมีอยู่ท่าเดียว
และสิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือ การที่นางเอกอยู่ในปาร์ตี้แค่นิดเดียว
แต่เนื้อเรื่องและการเล่นต่อหลังการจบถือว่าดีมาก

เกมส์ที่สาม PSP [Fat Princess: Fistful of Cake ]
เป็นเกมส์ที่เล่นสบายๆ คลายเครียด
แต่ไม่เหมาะกับหนูๆ ทั้งหลาย เพราะความฮาที่เลือด สาดดดดดดดดด
นั่นเองจึงไม่เหมาะ


เกมส์ที่ห้า [Hatsune Miku Project Diva]
เกมส์จากดาราไอดอล Hatsune Miku จากโปรแกรมเสียงสังเคราะห์ Vocaloid
เกมส์นี้เป็นเกมส์แนวคล้ายๆกับ Beats Mania
ซึ่งเราสามารถแต่งตัวให้เธอหรือสร้างเวทีคอนเสิร์ตได้

เกมส์ที่หก PS2 [Shining Force EXA]
เกมส์แนวอาร์พีจีอีกเกมส์ที่ผมจะเอามาแนะนำในวันนี้
เป็นเกมส์ที่สามรถมีฐานทัพเป็นของตัวเอง โดยมีตัวเอกอยูสองตัว
โดยถ้าตัวเอกตัวหนึ่งออกไปทำภารกิจนอกฐานทัพ ตัวเอกอีกตัวหนึ่งก็จะอยูป้องกันฐานทัพ
และสามารถมีพรรคพวกได้ด้วย แต่จะเยอะไม่เท่า Radiata Stories
การต่อสู้จะเป็นแบบไม่เข้าฉาก คือเจอศัตรูก็โจมตีได้เลย
ภาพสวยมากถ้าเทียบกับเกมส์อื่นใน PS2

เกมส์ที่หก [Dissidia Final Fantasy]
เกมสที่รวมเหล่าตัวละครของตระกูลเกมส์ ไฟนอล แฟนตาซี
มาสู้กันโดยแบ่งตัวดีหรือตัวร้ายออกจากกัน
ระบบการต่อสู้ ค่อนข้างเล่นยาก[ผมเล่นแล้วยังงงๆ]


มีอีกนะครับเดี๋ยวมาอัพต่อให้

เกมส์จีบสาวติดเรทใน PSP ครับ

เนื่องจากไม่ได้อัพมานานก็เลยไม่รู้ว่าจะอัพอะไรเลย เอาเรื่องนี้มาเลยละกัน [เนื้อหาไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด แต่เด็กดีทั้งหลายอย่าเข้ามาดูเลยนะ]

เกมส์ที่หนึ่ง [Osananajimi to Amaku H ni Sugosu Hou ]











ไม่มีคำบรรยายครับ เพราะถ้าหากมีคำบรรยาย บล็อกนี้จะโดนหลุมดำดูด~
(คงรู้สินะครับว่าทำไมถึงไม่สารถเอาลงแบบเต็มๆได้ ถ้าลงคงโดนดูดเช่นกัน)

เกมส์ที่สอง [Toriko no Hime Inma no Chouritsu ]











เกมส์นี้ให้ดูจากหน้าตาของเธอเอา ไม่ต้องมีคำบรรยายเช่นกัน [บ็อกอาร์ท เต็มหาได้จากในเว็บนะครับซึ่งมันไม่สมควรที่จะนำมาลงในบล็อกผม เพราะบล็อกผมไม่ใช่บล็อก H]

เกมส์ที่สาม [Mei Shoujo]













ไม่มีคำบรรยายเช่นกัน เพราะมันออกแนว ยูริ แบบ H สุดๆ

ที่นำให้ดูกันในวันนี้ทั้งสามเกมส์ ยอมรับว่า ไม่เคยเล่นเลยจริงๆ
และผมไม่สนับสนุนให้เล่นเพราะมันเป็นอันตราย คล้ายดูเว็บ X
แต่บางคนอาจจะเห็นแล้วยิ่งอยากเล่น (มั้ง)

ผมคิดว่าเกมส์พวกนี้หาได้ไม่ง่าย (ผมไม่บอกนะครับว่าเกมส์พวกนี้มีแหล่งที่อยูที่เว็บไหน)
พิจารณาดีนะครับก่อนเล่น เพราะมันไม่ดี แล้วมันอาจจะมีผลต่ออนาคตของคนที่เล่นด้วย
ผมฝากไว้แค่นี้นะครับ สวัสดีครับ...

วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ ภาคเจ็ด

คำที่หนึ่ง [โลลิต้า]
พวกนิยมชุดสาวน้อยสีหวาน แนวๆ คุณหนูไฮโซ ประมาณยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19 เช่นกัน มีโบว์และพู่ฟ่องๆ เยอะๆ

คำที่สอง [ยาโอย]
กลุ่มสงวนพันธุ์ป่าไม้(เดียวกัน) ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันชาย แบ่งสายได้ 2 สายคือ
-Seme YAOI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบเข้าทางข้างหลัง
-Uke YAOI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำทางด้านหลัง

คำที่สาม [ยูริ]
สมาคมอนุรักษ์ดนตรีไทย ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันหญิง แบ่งได้ 2 สายเช่นกัน

-Seme YURI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบแสดงตัวเป็นชาย
-Uke YURI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำโดยเพศเดียวกัน

คำที่สี่ [โชเน็น-ไอ]
ความรักบริสุทธิ์ระหว่างชายกะชาย [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาว

คำที่ห้า [โชโจ-ไอ]
Shojo-ai (โชโจไอ) ความรักบริสุทธิ์ระหว่างหญิงกะหญิง [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวเช่นกันแม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุหญิงก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ

คำที่หก [Gyaku-Harem (逆ハレム)]
เหมือนกับแนวฮาเร็มทุกประการ แต่จะเปลี่ยนเป็นหญิงสาวถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มหน้าตาดี
(พบใน โอรัน ไฮสคูล โฮสต์คลับ)

คำที่เจ็ด [คินนิคุ]
พวกที่ชอบจนถึงคลั่งไคล้ในมนุยษ์จำพวกที่มีกล้ามใหญ่ๆ
(เช่น ดราก้อนบอล)

คำที่แปด [อินเซสต์]
รักต้องห้าม รักระหว่างสายเลือด (พ่อลูก แม่ลูก พี่น้อง)

คำที่เก้า [ซิสคอน]
เป็นความรักของพี่น้องด้วยกันเอง โดยหมายถึง พี่น้องทางสายเลือด หรือ ตามกฏหมาย

คำที่สิบ [ทวินเซสต์]
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทวิน ใช่แล้ว ความรักของฝาแฝดนั่นเอง นั่นเอง อันนี้ค่อนข้างจะสับสนกับ อินเซสต์ ซักหน่อย คาดว่าคงแตกย่อยออกมา

คำที่สิบเอ็ด [เฟติชม์]
พวกชอบสิ่งของหรือเครื่องแต่งกายเพศตรงข้าม รวมไปถึงพวกชอบแต่งกายในชุดยูนิฟอร์มต่างๆ
(ชุดตำรวจ ชุดนางพยาบาล etc.)

คำที่สิบสอง [ฟูตานาริ]
พวกที่นิยมชมชอบพวกมนุษย์สองเพศ กล่าวคือพวกผู้หญิงที่มีตุ้มน้อยนั่นเอง
(ผู้หญิงประเภทนี้ไม่มีในโลกแห่งความจริง)

คำที่สิบสาม [สปอร์ต]
สายนี้ค่อนข้างจะบ้าพลังเอามันทุกอย่าง จะเล่นกีฬาทุกประเภท ซ้ำยังมีท่าไม้ตายเวลาจะเล่นอีก

คำที่สิบสี่ [ไรเดอร์]
สายนี้ค่อนข้างแยกตัวออกเป็นเอกเทศจากสายอื่นเนื่องจากภูมิใจในประวัติอันยาวนานของตนเองเเละพัฒนาการที่ก้าวหน้าจากฮีโร่ไร้สาระกลายเป็นฮีโร่เพื่อชีวิต-สร้างสรรค์สังคม-เน้นความรัก และเลิกกระโดดถีบโดยหันมาใช้ดาบและปืน มือถือ ติดการ์ดในการต่อสู้เเทน โดยที่ยังคงอยู่คือท่าแปลงร่างที่คนในสายนี้จะจำได้หมดไม่ว่ามันจะออกมากี่ตัวต่อกี่ตัวก็เถอะ

คำที่สิบห้า [เรนเจอร์]
สายเพื่อนสนิท - นี้ถ้าไม่รักกันจริงคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ คนที่อยู่สายนี้จะไม่พยายามที่จะอยู่ตัวคนเดียวเป็นอันขาดและจะทำการจับกลุ่ม 3-5 คนเข้าไว้โดยมีการกำหนดสีกันอย่างชัดเจน โดยอ้างว่าเวลาอยู่คนเดียวไม่สามารถเรียกหุ่นยนต์ออกมาได้ ซึ่งหากรวมๆ กับไรเดอร์แล้ว ก็จะถูกเรียกว่า Live Action Hero

คำที่สิบหก [เซย์ยู]
สายรักกลุ่มคนเบื้องหลัง พวกเขาคือเหล่าโอตาคุที่เทิดทูนเสียงพากษ์และเหล่านักพากษ์(声優) มีความสุขกับการนั่งฟังดราม่าซีดี และเลือกอนิเมที่จะดู(โหลด)ด้วยการตรวจสอบรายชื่อ CAST หากคนกลุ่มนี้ดูหนังแนวไรเดอร์ ก็มักจะไปชื่นชมพวกตัวทารอส(หรือตัวอะไรก็ได้ที่มีการพากษ์แสียง)แทนที่จะเป็นตัวเอกหน้าตาดี ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นก็จะพบได้ตามแถวๆเวทีงานอีเว้นท์ที่เซย์ยูไปปรากฎตัว คนกลุ่มนี้จะใชสมองกว่าครึ่งไปกับการจำว่าตัวละครตัวนี้ใครพากษ์ ชื่ออะไร และพากษ์เรื่องไหนอีกบ้าง 99%ของโอตาคุกลุ่มนี้ไม่ดูอนิเมพากษ์ไทย ถึงตายก็ไม่ดู เสียงมันไม่โมเอะ

คำที่สิบเจ็ด [โพลิทติคส์]
แนวล้อเลียนการเมือง ส่วนใหญ่มักจะเป็นโดจิน

คำที่สิบแปด [ทุนดร้า]
มุกคำพ้องเสียงกับซึนเดเระ ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงคล้ายกัน แต่มันจะหมายถึงเย็นชาราวกับที่ราบ
ทุนดร้าที่เปล่าเปลี่ยวมีแต่หิมะ ไม่ได้รักหรือรู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

ศัพท์และศาสตร์แห่งโอตาคุ ภาคหก [ติดเรทนะ]

คำที่หนึ่ง [เอ็ตจิ]
ทะลึ่ง เป็นคำที่ใช้ว่าพวกที่ลามกแต่ไม่ถึงขนาดโรคจิต เป็นค่ามาตรฐานของชายหนุ่ม แต่ควรควบคุมไม่ให้เกินกว่านี้
(ขั้นที่สองของเอ็ตจิคือ เฮ็นไต)

คำที่สอง [เฮ็นไต]
ลามก วิปริต มีคำย่อคือ H โดยเมื่อนำไปใช้รวมกับคำอื่นจะมีความหมายว่าโป๊ เช่น H-Game คือเกมส์โป๊
H-dojin คือ โดจินโป๊
(สื่อเหล่านี้ถือว่าเป็นของผิดกฏหมาย...)

คำที่สาม [จิ้น]
จินตนาการ นิยมให้ใช้ตัวละครประเภทเดียวกันมีความสัมพันธ์กันได้โดยไม่ยึดติดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก
จิ้นได้ทั้ง หญิงกับหญิง และ ชายกับชาย

คำที่สี่ [มุดฟูก]
กิจกรรมทางเพศ ในรูปแบบต่างๆ คลอบคลุมทั้ง ชาย-หญิง ชาย-ชาย หญิง-หญิง

คำที่ห้า [ยาราไนก๊า]
เป็นคำที่ฮิตที่อาเบะ จากเรื่อง Kuso Miso Technique พูดแปลได้ว่า "จะเอามั้ยจ๊ะ"
(คำๆนี้มีผลทางจิตวิทยาอย่างมากกับโอตาคุที่ปกติ)

คำที่หก [หื่น]
ความอยากหรอต้องการในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนมากเกินความพอดี ผู้ที่เป็นเพียงแค่ได้ยินชื่อของสิ่งนั้นก็จะมี
ปฏิกริยาออกมาโดยไม่ลังเล
(เช่น หื่นเด็ก,หื่นวาย,หื่น G ,หื่นดุ้น)

คำที่เจ็ด [เรพ]
ข่มขืน กระทำชำเรา แนวอันตรายที่ไม่เหมาะกับเด็กอย่างยิ่ง เรื่องจะเน้น การใช้กำลัง ทรมาน บังคับจิตใจ อยู่ในกลุ่มพวกเฮ็นไตที่ก้าวร้าว
(ส่วนใหญ่เรื่องแนวนี้พระเอกหน้าตาจะไม่ได้เรื่อง)

หมดเท่านี้แล้วนะครับ เดี๋ยวจะอัพของไร้สาระนุกรมต่อ 

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ ภาคห้า

คำที่หนึ่ง [กะหล่ำ]
ผลงานที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดของชิ้นงานทำให้ดูผิดปกติไป มาจาก Yoake Mae Yori Ruri Iro Na
ซึ่งกะหลำในเรื่องจะเหมือนลูกบอล
(เช่น อนิอเมะเรื่องนี้วาดได้ กะหล่ำจริงๆ)

คำที่สอง [วงสวิง]
ขอบเขตของสเป็กสาวๆที่ชอบ มีสามระดับคือ วงสวิงแคบ,วงสวิงปานกลางและวงสวิงกว้าง
(เช่น แกน่ะวงสวิงแคบ ชอบแต่สาวดุ้น
ชั้นวงสวิงกว้างต่างหาก รับได้หมด)

คำที่สาม [บอมบาเย่]
คำเชียร์แบบหนึ่งซึ่งใช้ในวงการมวย แปลว่า [ฆ่ามัน] แต่เมื่อนำมาใช้ในวงการอื่นก็จะแปลประมาณว่า [สู้สู้] หรือ [สุดยอด]
(ใช้ครั้งแรกกับ มูฮัมหมัด อาลี)

คำที่ห้า [อูโสะ](Uso)
โกหก เวลาพูดบางครั้งอาจมีเสียงเกินมา เช่น Usoda~ แต่ยังคงความหมายใว้เช่นเดิม

คำที่หก [รู~]
สวัสดี หรือการกล่าวทักทาย โดยผู้พูดต้องตั้งเสียงยาวพร้อมแบมือ และชูขึ้นเหนือศรีษะทั้งสองข้าง มาจากเรื่อง To Love 2
(และบางครั้งยังใช้สื่อสารกับผู้มาจากนอกโลกได้!?)

คำที่เจ็ด [จังค์]
ฟิคหรือภาพวาดที่ทำออกมาแล้วไม่เสร็จไม่ถูกใจ หรือภาพเสีย ขึ้นอยู่กับคนที่ทำว่าใช่จังค์หรือไม่
(บางภาพเจ้าของจะว่าจังค์ แต่ก็ดูสวยในสายตาบางคน)

คำที่แปด [เทพ]
สิ่งที่มีความสามารถสูงกว่าปกติทั่วไป และในบางกรณีจะแฝงความชั่วร้ายอยู่ด้วย

คำที่เก้า [เซ็นเซย์]
อาจารย์ผู้ที่ประกอบวิชาชีพต่างๆ เช่น แพทย์ นักวาดการ์ตูน ช่างฝีมือ
(กลุ่มที่นิยมแนวนี้จะชอบคนที่มความรู้ดูเป็นผูนำและน่าเชื่อถือ)

คำที่สิบ [แฮ็งค์]
อาการที่เกิดจากการทำงานหนักของสมองหรือร่างกาย จนทำให้ผู้ที่เป็นไม่สามารถกระทำการใดๆได้อีก
(ผู้ที่มีสิ่งนี้อยู่จะเพิ่มความน่าสนใจขึ้น 30%)

คำที่สิบเอ็ด [อักษรศีลธรรม]
คำที่ช่วยปิดบังบางส่วนของภาพเพื่อกล่อมเกลากิเลศของผู้ชมให้น้อยลง แต่บางครั้งยิ่งปิดเหมือนจะเกิดกิเลศขึ้น
(เช่น ผ่าง คว้าง วิ้ว ควับ ซ่า เพี้ยะ ปู้ด)

คำที่สิบสอง [หิ้ง]
ที่วางของซึ่งแขวนหรือติดไว้ข้างฝา เช่น หิ้งพระหิ้งหนังสือ แต่สำหรับที่ใช้ในกลุ่มโอตาคุ จะหมายถึง สิ่งที่เทิดทูน ห้ามใครลบหลู่ดูหมิ่นเช่น ตัวละครสุดโปรด

คำที่สิบสาม [ห้องปิดตาย]
ห้องหรือสถานที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเข้าออกได้ด้วยวิธีการปกติ
(ห้องปิดตายทำได้ง่ายขนาดเด็ก ม.ต้น ยังรู้เลย)

คำที่สิบสี่ [เท็นงู]
อสูรเทพตามตำนานของญี่ปุ่น มีลักษณะครึ่งคนครึ่งนก ใบหน้าสีแดง จมูกยาว  มีอาวุธเป็น พัดขนนก
และบางครั้งจะปรากฏกายในรูปนกปีศาจ
(เทนงูทั่วไปจะไม่ถือกล้องถ่ายชาวบ้าน...)

คำที่สิบห้า [อโลฮา]
สวัสดี,ลาก่อน โดยเป็นภาษาฮาวายเอี้ยน ของหมู่เกาะฮาวาย
ซึ่งหมู่เกาะนี้เป็นมลรัฐของสหรัฐอเมริกา และฮาวายยังมีชื่อเล่นอีกว่า

คำที่สิบหก [กัปปะ]
ปีศาจของญี่ปุ่น มีตัวสีเขียว มีกระดอง และมีสิ่งที่คล้ายจานสีเหลืองอยู่บนหัว มือและเท้ามีพังผืด ว่ายน้ำเก่งอาศัยอยู่ตามน้ำและแหล่งน้ำ ชอบทำให้คนจมน้ำตาย อาหารที่ชอบคือแตงกวา จุดอ่อนของกัปปะคือจานเหลืองที่อยู่บนหัว

คำที่สิบเจ็ด [โดรายากิ]
ขนมของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็รแพนเค้ก ทำจากแป้งสาลีผสมไข่ เนยและนมสด มีสองชิ้นประกบกัน โดยมีไส้ถั่วแดงกวน ในไทยเรียกขนมแป้งทอด

คำที่สิบแปด [U.C.]
ระบบศักราชแบบใหม่ ย่อมาจาก Universal Century ใช้ตอนที่มนุษย์ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่โคโลนี่ โดยนับตั้งแต่ U.C. 0001 เทียบได้กับ ค.ศ.2045

คำที่สิบเก้า [ไดอ้งแมสเสส]
สิ่งที่ผู้เคราะห์ร้ายในคดีต่างๆมักทิ้งไว้ เพื่อบ่งบอกถึงตัวคนร้าย ในรูปแบบต่างๆ

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ประวัติโอตาคุ~

คำว่าโอตาคุ (オタク) ในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า Taku ซึ่งแปลว่าบ้าน ซึ่งเป็นคำสุภาพ หลังๆเริ่มเพี้ยนความหมายมาเป็นเช่นเดียวกับคำว่า Mania ที่แปลว่าผู้ที่คลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะมักใช้กับพวกที่บ้าการ์ตูนซะมากกว่า เป็นความหมายที่ค่อนข้างไม่ดีภาพพจน์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เมื่อให้ Image จะได้ประมาณว่า เพศชาย ตัวอ้วนๆ สิวเขรอะๆ ใส่แว่น ผมเผ้ารุงรังไม่สระผม กลิ่นเหงื่อโชย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แบกเป้ จริงๆแล้วโอตาคุไม่จำเป็นต้องมีลักษณะที่กล่าวไว้ก็ได้ หน้าตาดีก็มี และก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย เพียงแต่ไอ้ส่วนของโอตาคุผู้ชายจะเยอะกว่ามากนั่นเอง

ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง "เด็ก" ผู้หญิงในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป พวกนี้จะคิดว่า "เด็ก" ผู้หญิงที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น

พวกนี้คือ Otaku2p ยกระดับ ชาตินี้มันจะไม่สนผู้หญิงจริงๆ แล้ว (แต่จริงๆ คือผู้หญิงไม่สน) โดยมันจะเฝ้าบูชาสาวน้อยจาก Anime อย่างถวายหัว


2p ย่อมาจาก Two Parry หมายถึง หลีกหนีแล้วซึ่งความจริงทุกประการ โอตาคุเหล่านี้จะมีอาการนับถืออนิเมขึ้นสมอง หากมีใครมากล่าวว่าร้ายแก่อนิเมเรื่องโปรดจะเกิดอาการโกรธลุกเป็นไฟจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ โอตาคุเหล่านี้จะคุยกับคนธรรมดาไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเขาจะพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่อาจแกะข้อความออกมาได้

สมองส่วนใหญ่ของโอตาคุเหล่านี้ จะใช้จดจำแต่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างเต็มแน่นเอี๊ยด ซึ่งอาจไม่มีเรื่องที่มีสาระอยู่เลย

ในทางด้านบวกนั้น โอตาคุ อาจหมายถึงแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งมีความรู้ความสามารถ สามารถจดจำในสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก ( อกหัก , สาวไม่แล ) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง

วิธีสังเกตโอตาคุ


ไม่สนใจผู้หญิงอื่น นอกจากนางในฝันในอนิเมเท่านั้น

จะก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนลูกเดียว โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าเดินไปอ่านไปก็ไม่สนใจว่าจะเดินชนใคร

ถ้าชวนคุยเรื่องการเมือง ก็จะเอากันดั้มมาอ้าง ถ้าชวนคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดคอสเพลย์ ไม่ก็ชุดเมด บลาๆๆ

ถ้าชี้ให้ดูเด็กผู้หญิง ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L (Lolicon) และ Y (Yaoi,Yuri)

แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป

ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่

ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่

มากกว่า 50% ของพื้นที่ในคอมจะมีแต่เรื่องเกมส์และอนิเม นอกนั้นเป็นระบบปฏิบัติการ และ MS Office

สะพายกระเป๋าใบเบ้อเริ่ม.. ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้นักหนา

แต่งตัวเชยๆ บ้างก็ใส่แว่น ชอบหลบหน้าผู้คน

คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ "

ขาด การ์ตูนไม่ได้ เหมือนขาดอาหาร...

คิดถึงเรื่อง การ์ตูนเกือบ 75% ของความคิดทั้งวัน

แต่งแฟนฟิค แต่งคอส เขียนโดจิน วาดแฟนอาร์ต <<<ทำอะไรซักอย่างใน 4 อย่างนี้ ทำแน่ๆสาบาน อาจทำครบทั้ง 4 ข้อเลยก็ได้

มีการ์ตูนที่ชอบที่สุดแบบยกย่องเทิดทูนคลั่งไคล้อยู่อย่างน้อยสามเรื่อง

มีตัวละครที่รักสุดๆในชีวิตเป็นหนึ่งเลย และมีประปรายอีกเยอะ=

สละเงินซื้อของการ์ตูนได้ไม่มีเสียดายเลย เงินกินข้าวของทั้งเดือนก็ยอม! (ไปตายเอาดาบหน้า การ์ตูนข้ามาก่อน!!)

ถ้านึกอยากได้อะไรขึ้นมาก็จะซื้อเลยโดยแทบไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
รอบรู้เรื่องการ์ตูนไป (เกือบ) ทุกอย่าง ตามข่าวการ์ตูนไวมาก ใช้ภาษาโอตาคุ

เกลียดพวกสามมิติ (ดารา วงการบันเทิง น้ำเน่า) บางคนอาจเฉยๆหรือแค่รำคาญ แต่จะไม่สนใจพวกนี้เลย

ไม่มีแฟน (เรารักตัวการ์ตูนก็พอ!)

คลุกคลีกับการ์ตูน นั่งดู + อ่านได้ทั้งวัน ข้าวปลาลืมกินก็มี

เคยโหลดพวกสแกนคอมมิค แฟนซับ บิทอนิเม อย่างน้อยสิบครั้ง

เชิดชูอากิฮาบาร่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์

เกิดความรู้สึกโมเอะ (สุขใจสุดๆเหมือนไฟในตัวลุกโชน) เมื่อได้อยู่ในที่ๆมีการ์ตูน ได้ดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูน

เมื่อดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูนจะดูเหมือนหลุดไปอีกโลกนึง

ไปงาน Event การ์ตูนได้แทบทุกงานไม่มีขาด และหอบข้าวของที่ซื้อมาเป็นประจำ

จะพูดไม่หยุดเมื่อพูดถึงการ์ตูน

สามารถดูอนิเมได้ทั้ง season (เผลอๆ อาจ 2 seasons) ได้ในเวลาวันเดียว

ในห้องจะเต็มไปด้วยการ์ตูน ทั้งของสะสม หนังสือการ์ตูน อนิเม ฟิกเกอร์ การาจคิท โปสเตอร์ และอีกสารพัด

อ่าน&ดูการ์ตูนแบบจริงจังอย่างน้อย เกือบทุกเรื่องที่รู้จัก(โอตาคุจะรู้จักการ์ตูนโดยเฉลี่ยคนละ 100 เรื่อง ถึงจะคิดว่าไม่มากขนาดนั้นมั้ง?แต่ถ้าจับมานั่งลิสต์ซักพัก ดีไม่ดี อาจเกิน 100 ด้วยซ้ำไป)

ซื้อการ์ตูนหรือเกม(หรือแม้แต่ไลท์โนเวล)ที่ชอบคราวละ 3 ชุดขึ้นไป (ชุดแรกไว้ดู/เล่น ชุดที่สองไว้เก็บสะสม ที่เหลือไว้ให้คนอื่นๆยืมหรือแจกจ่ายเพื่อเพิ่มจำนวนสาวก!)

ที่อาจจะเป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้คือถ้าเขาเป็นนักเขียนเสียเองและเพิ่งได้เผยแพร่เป็นเรื่องแรก อันนี้ให้พึงเข้าใจว่าแค่เห่อ

อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมทางสังคมยังมีอยู่ สาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนนั้นคลั่งไคล้เรื่องนี้ถึงขนาดตีพิมพ์ภาคนิยายไว้แจกฟรี รวมถึงได้รวมตัวกันจัดมีตติ้งทุกวันอาทิตย์ แต่ไม่มีใครเรียกสาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนว่าโอตาคุเลย

*ข้อควรสังเกต โอตาคุที่หมั่นแจกจ่ายหรือให้คนอื่นๆยืมสมบัติเป็นนิจนั้น จะไม่เป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง

ที่มาจาก ไร้สาระนุกรม

ที่มาของคำว่าโมเอะ~

โมเอะ (萌え) เป็นศัพท์สแลงในภาษาญี่ปุ่น มีความหมายถึงความรักความชอบหรืออารมณ์ทางเพศที่มีต่อตัวละครในมังงะ อะนิเมะ หรือวิดีโอเกม




ที่มาของคำว่า "โมเอะ" ไม่แน่ชัด บางที่กล่าวว่ามาจากชื่อตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่น (เช่น โทโมเอะ โฮตารุ จากเรื่อง เซเลอร์มูน หรือ ซางิซาวะ โมเอะ จากเรื่อง Kyoryu Wakusei) ในขณะที่บางแห่งกล่าวว่า เกิดจากการเล่นคำจากคำว่า "โมเอะรุ" ( 燃える) ที่แปลว่า "เผาไหม้" กล่าวคือตัวละครที่เป็นโมเอะทำให้เกิด "เพลิงพิศวาส" ขึ้นในใจของผู้ชมนั่นเอง



ทามากิ ไซโต้ นักจิตวิทยาผู้ศึกษาพฤติกรรมของโอตากุ (บุคคลที่คลั่งไคล้การ์ตูน) เห็นว่าโมเอะมีความหมายตรงตัว แปลว่าการ "แตกหน่อ" หรือ "แรกงอก" ของพืช ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับคนจะหมายถึงตัวละครเด็กวัยกระเตาะ (มักเป็นผู้หญิง) ที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ ต้องพึ่งพาคนอื่น ทำให้ผู้ชมการ์ตูนอยากปกป้องดูแล จนถึงขั้นหลงรักได้ในที่สุด

อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ ภาคสี่

คำที่หนึ่ง [โดจิน]
ของทำมือโดยไม่จำกัดแค่หนังสือการ์ตูน อาจเป็นเกมส์,พวงกุญแจ ฯลฯ โดยแยกได้เป็นสองประเภท
-Parody โดจินที่อ้างจากเนื้อเรื่องที่มีอยู่
-Original โดจินที่คิดขึ้นเองโดยไม่อ้างอิง
(ส่วนโดจินชิคือหนังสือทำมือ)

คำที่สอง [มังงะ]
หนังสือการ์ตูน โดยต้องเป็นการ์ตูนรูปแบบของสิ่งพิมพ์เท่านั้น คือต้องผ่านสำนักพิมพ์นั่นเอง ไม่เหมือนโดจิน ปัจจุบันกล่าวถึง มังงะจะเรียกในญี่ปุ่น แต่ถ้า โคมิค ใช้เรียกการ์ตูนฝรั่ง
(ใช้เรียกครั้งแรกเป็นหนังสือรวมภาพญี่ปุ่นโบราณ โดยนายโฮคุไซ ศตวรรษที่ 19)

คำที่สาม [ออฟฟิเชี่ยล อาร์ท]
ภาพที่วาดโดยเจ้าของผลงานหรือค่ายผู้ผลิตเรื่องๆนั้น เช่น ภาพปกหนังสือ ภาพเนื้อเรื่องบางตอน ฯลฯ
ตรงข้ามกับ Fan Art ที่วาดโดยกลุ่มแฟนๆ

คำที่สี่ [Fan Art]
ภาพที่กลุ่มคนที่รักในเรื่องนั้นๆ จัดทำขึ้น เช่น ภาพตัวละคร ภาพอาวุธ หรือเหตุการณ์ต่างๆ บางครั้งจะมีการปรับเพิ่ม เสริมแต่งลงไปด้วย เช่นวาดตัวละครให้ตรงกับรสนิยมผู้วาด หรือแม้กระทั่งดัดแปลง
ตัวละคร

คำที่ห้า [ไลท์โนเวล] (Light Novel) {ライトノベル}
นวนิยายรูปแบบหนึ่งซึ่งมีรูปแบบการ์ตูนประกอบ และข้อความประเภทร้อยแก้ว มีเนื้อหาไม่แรงเหมาะกับเด็กและวัยรุ่น โดยมีหลายเรื่องที่นำไปจัดทำเป็น อนิเมะ

คำที่หก [แฟนอาร์ท]
ภาพวาดการ์ตูนจากกลุ่มแฟนที่ชอบ อนิเมะ,มูวี่ และ เกมส์ นั้นๆ โดยอาจวาดตามจินตนาการของผู้วาดก็ได้
(บางครั้งแฟนอาร์ท ภาพอาจจะสวยกว่าต้นฉบับอีก)

คำที่เจ็ด [คอสเพลย์]
การแต่งเลียนแบบตัวละครจาก อนิเมะ,มูวี่,เกมส์ โดยแสดงให้เห็นถึงความชอบในตัวละครนั้น มาจากคำว่า Costume Play
(คำนี้ถูกใช้ครั้งแรกในญี่ปุ่น ในนิตยาสาร My Anime ปีพ.ศ. 2525 โดยนาย โนบูยูกิ ทาคาฮาชิ)

คำที่แปด [เลเยอร์]
คำเรียกผู้ที่แต่งคอสเพลย์ ย่อจาก คอสเพลย์เยอร์ คือคนแต่งชุดเลียนแบบตัวละครที่ชอบมี
สองประเภท
 -เลเยอร์ที่มีใจรักตัวละครนั้นจริงๆ ไม่ได้คาดหวังให้เหมือน แต่มักถูกมองในแง่ลบ
 -เลเยอร์ที่แต่งเพราะถูกจ้างหรือเป็นอาชีพ แต่งโดยที่ไมความรักต่อตัวละครที่แต่ง

คำที่เก้า [คอสเลิฟเวอร์]
คนที่ใส่ชุดเลียนแบบตัวละครที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น อนิเมะ,เกมส์,มูวี่ ซึ่งกลุ่มนี้แยกมาจากคอสเพลย์เยอร์
ต่างกันที่คนกลุ่มนี้คอสเพราะใจรักอยางแท้จริง แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะไม่เอื้ออำนวย

คำที่สิบ [ครอสเดรส]
การแต่งกายให้เหมือนเพศตรงข้ามหรือแต่งหญิง(ชาย) แต่รูปร่างและเพศจะไม่เปลี่ยนแปลง แค่เปลี่ยนชุดที่สวมใส่เท่านั้น

คำที่สิบ [OVA]
อนิเมะที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในรูปแบบ VDO,VCD.DVD โดยไม่ออกฉายผ่านทางโทรทัศน์หรือทางโรงภาพยนตร์ก่อน มีคำเต็มว่า Original Video Animation
(จุดเด่นคือสามารถมีฉากเลือดสาด หรือ Fan Service โดยที่ไม่ถูกตักออก)

คำที่สิบเอ็ด [Original SoundTrack(OST)]
เพลงที่อาจมีเนื้อร้องหรือเป็นเพลงบรรเลง(Score)ใช้เป็นเพลงประกอบอนิเมะ หรือ ภาพยนตร์ เรื่องต่างๆ เปิดประกอบเพื่อสื่อถึงบุคคลหรือเหตุการณ์ต่างๆในเรื่อง

 คำที่สิบสอง [ไลเซ่น]
ลิขสิทธิ์ เป็นสิ่งที่รับรองความเป็นเจ้าของ ของสิ่งนั้นๆโดยถูกต้องตามกฏหมาย ผู้ถือครองสามรถ ควบคุม จัดการ เพื่อแจกจ่ายหรือ ค้าขายได้

คำที่สิบสาม [อเวตาร์]
สัญลักษณ์หรือภาพแสดงแทนตัวบุคคลในอินเทอร์เน็ต เพื่อให้จำคนๆนั้นได้ง่ายขึ้น ส่วนมากจะใช้กันในเว็บบอร์ด แต่มีบางเกมส์ใช้อเวตาร์มาเล่น โดยการเปลี่ยนชุดและเครื่องประดับ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

คำที่สิบสี่ [มาสค็อต]
สิ่งมีชีวิต,สิ่งของหรือตัวการ์ตูนเพื่อให้เป็นตัวแทนของสินค้า,หน่วยงานหรืองานกิจกรรมต่างๆหรือตัวแทนบุคคล ในวงการกีฬาเรียกว่า ตัวนำโชค จุดประสงค์หลักคือเพื่อช่วยให้คนจดจำสิ่งๆนั้นได้ยขึ้น

คำสิบห้า [ไนซ์ โบ๊ท]
ศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกการงดแพร่ภาพของรายการใดรายการหนึ่งแล้วนำรายการอื่นมาฉายแทนเช่น บังเอิญเกิดคดีลูกสาวฆ่าบิดาด้วยการใช้ขวานสับคอส่งผลทำให้ สคูลเดย์ ที่มีตอนจบไปฟ้องกับคดีที่เกิดขึ้น ต้องงดฉายเพราะจะทำให้ถูกสื่อหรือคนในสังคมตำหนิเอาได้

คำที่สิบหก [ปาหมอน]
การจบของการ์ตูนที่ไม่น่าประทับใจและ ยอมรับไม่ได้คำๆนี้มาจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง ชาแมน คิง
(การจบแบบนี้ทำให้ผู้ชมเสียความรู้สึกอย่างมาก)

เจาะลึก รู้ลึก รู้จริง กับเรื่อง โลลิค่อน [Lolita Complex]

โลลิคอน (Lolicon , ロリコン) - ลัทธิที่ว่าด้วยการรักเด็ก เป็นแขนงวิชาแขนงหนึงของเหล่าผู้นับถือศาสนาโอตาคุ ผู้ซึ่งล้มเหลวโดยสิ้นเชิงแล้ว

ที่มาของคำศัพท์

เดิมมาจากคำว่า Lolita complex หรือปมโลลิต้า ซึ่งคล้ายๆกับ ปมออดิปุส (อาการอยาก...บุพการีตนเอง) รึอะไรทำนองนั้น แต่ถูกกร่อนเสียงโดยพวกโอตาคุที่ยุ่นปี่ ซึ่งมักอ่านคำว่า คอม เป็น คอน (コン) ซะนี่ แต่ยังไงๆคนไทยเราก็ดันกร่อนให้มันสั้นยิ่งกว่า กลายเป็นคำว่า โลลิ รึ แอล (L) เฉยๆ


การใช้คำศัพท์

หลายๆคนมักจะสับสนในการใช้คำว่าโลลิคอนพอสมควร ซึ่งแท้จริง โลลิคอนมี 2 ความหมายหลักๆต่อไปนี้
โลลิคอนที่หมายถึง ผู้มีอาการของปมโลลิต้า ซึ่งก็ได้แก่โอตาคุที่พิการทางสมองทั้งหลาย กับ...
โลลิคอนที่หมายถึง เด็กสาวที่ชวนกระตุ้นให้เกิดอาการปมโลลิต้า ซึ่งก็ได้แก่สาวๆในภาพข้างล่างนั้นเอง
เพื่อความชัดเจนของบทความ เราจะเรียกบุคคลในข้อแรกว่าโลลิคอนและในข้อสองว่าโลลิตามลำดับ

ลักษณะอาการ

หากให้เปรียบเทียบแล้ว ผู้ที่มีอาการโลลิคอนนั้นจะมีความคิดความอ่านที่วิตถารไปจาก Homo Sapiens ธรรมดาไปโดยสิ้นเชิง อันเนื่องมาจากมองเห็นเด็กสาวที่มีอายุน้อยๆ (และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กสาวที่ว่าเป็นแค่ภาพการ์ตูน) แล้วเกิดความหื่นเทียบเท่ากับผู้หญิงจริงๆ และบุคคลจำพวกนี้ มักจะสะสมโดจิน การ์ตูนX เกมส์X รึฟิกเกอร์ ไว้ที่บ้านเยอะมาก

หากจะให้ชี้ชัดอีก คนพวกนี้มองเด็กผู้หญิงทั้งในโลกความจริงและในการ์ตูนอย่างหื่นกระหายเกินลิมิตคนธรรมดานั่นเอง

ต้นเหตุเดิมทีหลายคนเชื่อว่าอาจจะมาจากการไร้การศึกษา อันเนื่องมาจากการศึกษาจะทำให้คนเราสามารถระงับและควบคุมความเถื่อนดิบของตนเองลงได้ แต่จริงๆแล้วนั่นคือเหตุผลที่ผิด เพราะปัจจุบันเหล่าผู้มีการศึกษาทั้งหลายมีแนวโน้มจะติดเชื้อโลลิคอนไวรัสมากขึ้น เพราะอะไร? ก็เพราะการ์ตูนX ที่พวกเจ้าอ่านอยู่ยังไงเล่า

 ลักษณะบุคคลที่เข้าข่ายว่าติดเชื้อโลลิคอน


พฤติกรรมคล้ายโอตาคุประเภทอื่นๆ แต่อาจร้ายแรงกว่า ซึ่งแจกแจงได้ดังนี้

สูบโดจินรึการ์ตูนX ในปริมาณมหาศาลเกินกว่าเจ๊ระเบียบรัดจะรับได้ และ มากกว่า 78.36485854....% เป็นโลลิหรือการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

เล่นเกมส์ H สายโลลิ แม้เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต เพราะมันไม่ใช่ของหาง่ายๆ
มีอัลบั้ม Junior Idol อย่างน้อย 1 อัลบั้ม

ทันทีที่เห็นเด็กผู้หญิง ภาพชุดเมดหรือหูแมวจะลอยเข้ามาในหัวอย่างทันทีทันใด บางครั้งอาจมียูริปลอมปนมาด้วย

มี Antibody ชนิด L อยู่ในเลือด แต่ก็ไม่สามารถรับ Antigen ประเภท Kenshiro รึ Kinniku ได้เกิน 6.66 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (W/W) ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดภูมิแพ้ หากไม่สูบโลลิทดแทนก็ถึงถึงขั้นสิ้นชีพได้

ภายในคอมพิวเตอร์ของเขาอาจมีสิ่งผิดกฎหมายจำพวกภาพ...เด็กเกินกว่า 500 MB (บางคนอาจมีมากกว่า 150 GB ด้วยซ้ำ แล้วมันเอามาจากไหน คำตอบคือ โหลดบิทเอาสิ)

ยกย่องตัวการ์ตูนโลลิมากกว่าคนในโลกความจริง

วันๆนึง พูดคำว่า โลลิ หรือ โมเอะ อย่างน้อย 3 ครั้ง ยามคุยกับโอตาคุด้วยกัน

ไม่เคยคิดคำนึงว่า จริงๆแล้วโลลิคอนไม่ได้เป็นแค่ลัทธิมืดของสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมอาชญากรรมร้ายแรงอีกด้วย (เรื่องจริงนะ)

บางคนมีอาการไม่กลัวข้อหาพรากผู้เยาว์



ลักษณะของสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการโลลิคอน


แบบเดียวกับสาวน้อยในเกมส์ H นั่นแหละ แม้จะยังเรียนหนังสือ แม้จะเพิ่งยังเป็นเด็ก ม.ต้น อยู่ พระเอกเราก็ยังสามารถเจาะไข่แดงนางเอกได้อย่างไม่กลัวฟ้าไม่อายดิน ดังในเรื่อง สคูลเดน เป็นตัวอย่างอันดีงาม(?) ของไอ้พวกหื่นวิตถาร

KODOMO no JIKAN (รักร้ายๆ ของ ยายตัวแสบ) ซึ่งคนเขียนไปขโมยมาแต่ลักษณะโดยรวมๆแจกแจงได้ดังต่อไปนี้

เด็กสาวคนนั้นจะต้องอายุต่ำกว่า 16 ปี เด็กทารกก็ยังเคยมี (จริงๆนะ)

หรือถ้าอายุมากกว่านั้น ก็ต้องมีลักษณะทางภายนอกเหมือนข้อข้างบน จะอายุซัก 1000-2000 ปีก็ไม่เกี่ยง

(มักจะ) มีความสูงไม่เกิน 160 ซม.

หน้าอก อันนี้เป็นกรณีถกเถียงกันมาก เพราะบางคนชอบอกกระดาน แต่บางคนก็ชอบอกใหญ่เกินวัย

ชอบแต่งตัวหรือโพสท่าเซ็กซี่เกินวัย หรือมีพฤติกรรมร่าน หรือพูดจาแก่แดด โดยเฉพาะตอนอยู่บนเตียง แม้เวลาปกติจะไร้เดียงสาแค่ไหนก็ตาม

มักมีองค์ประกอบของชุดเมดหูแมวอยู่เสมอ นอกเสียจาก การ์ตูน K ที่โดนเอามายำมันก็มีเหมือนกัน

มีทั้งรูปแบบการ์ตูน อนิเมะ เกมส์ ฟิกเกอร์ และอื่นๆ

การกระทำบางอย่าง ยั่วยุให้พระเอกก่ออาชญากรรมชัดๆ อย่างเช่นเรื่อง KODOMO no JIKAN (รักร้ายๆ ของ ยายตัวแสบ) ซึ่งคนเขียนได้อ่านแล้วนำมาพิจารณา พบว่าน่าอิจฉาว้อยสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แม้จริงๆแล้วมันมิใช่การ์ตูน X แต่อย่างใด แต่สามารถมันมาวิเคราะห์พฤติกรรมโลลิคอนได้เป็นอย่างดี

หากอยากศึกษามากกว่านี้ กรุณาไปหาการ์ตูน X ซื้ออ่านเอง ไอ้การ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์แต่ดันลามกกว่าเรื่องข้างบนก็ยังมีขายเกลื่อนอยู่ในเมืองไทย
(เช่น โดเรมอน เป็นต้น)

ผลที่เกิดขึ้นในโลกความจริง

คงมีน้อยคนนักที่จะรู้สึกถึงความน่ากลัวของโลลิคอน กรุณาใช้จักรยานในการชม

ธุรกิจการ์ตูนของโอตาคุ

จากการที่กลุ่มโลลิคอนและโอตาคุที่ประเทศยุ่นปี่ ได้รับเสรีภาพในการแสดงออกและผลิตสื่อต่างๆ โดยไม่ปิดกั้นอย่างเด็ดขาด ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วทุกมุมโลก ทำให้ธุรกิจมังงะ เกมสาวน้อย และอนิเมะพัฒนาควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจในวงการนี้ทำรายได้มหาศาล และสร้างอาชีพให้กับชาวยุ่นปี่ ในทางกลับกันก็เป็นการสร้างปัญหาสังคมไม่น้อย

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับวงการนี้ ได้แก่ จิตรกร (illustrator) นักพากษ์ (seiyuu) รวมไปถึงคนวาดโดจินชิด้วย จากการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างผู้ผลิตเกมจีบสาว เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องของเหล่าโลลิคอนและโอตาคุ ทำให้อาชีพ พวกนี้อยู่รอดได้ ถ้าเนื้อเรื่องและตัวละครใดที่เริ่มสร้างสรรค์ขึ้นมา สามารถจับจิตใจของเหล่าโลลิคอนและโอตาคุได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้สร้างเป็นอนิเมะ หรือเกมส์โป๊ตามมาทันที ทำให้วงการธุรกิจนี้ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางตลาดให้มากที่สุด ดังนั้น ภาพและเนื้อเรื่องที่แหวกแนวและผิดศีลธรรมยิ่งค่อยๆถูกสร้างสรรค์มากขึ้นด้วย

ถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะส่งผลกับอนาคตเช่นใดหรือ?

การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต่อต้านโลลิคอน

พวกโลลิคอน มักถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกที่ส่งเสริมการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก และในหลายประเทศ มีความพยายาม ที่จะออกบทบัญญัติกำหนด ความผิดของพฤติกรรมโลลิคอน ว่าเป็นความผิดต่อเด็ก ซึ่งหมายรวมไปถึงรูปภาพ วีดีโอ วัตถุหรือพฤติกรรมอันหนึ่งอันใด ที่แสดงให้เห็นว่าละเมิดทางเพศ อย่างร้ายแรงต่อเด็ก

แต่ฝ่ายโลลิคอนก็โต้แย้งว่า การที่ตัดสินว่าผู้มีพฤติกรรมโลลิคอน เป็นความผิดร้ายแรงนั้น เป็นการสรุปที่อ่อนด้อยทางความคิด เพราะฝ่ายโลลิคอนเองมีเสรีภาพ ที่จะแสดงออกทางความคิด หรือพฤติกรรมที่ไม่ก่อให้เกิด ความเสียหาย การปิดกั้นสิ่งเหล่านี้ จะเป็นการเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อเด็กเสียมากกว่า อันเนื่องมาจากผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตประเภทเพนิสฟิเลีย (penisphilia) นี้ถูกปิดกั้นแม้พฤติกรรมการแสดงออกทางเพศผ่านทางการวาดเขียนการ์ตูน หรือเกมส์แอนิเมชัน

ในช่วงปลายปี 2006 ได้มีกลุ่มที่ต่อต้านโลลิคอน มีความพยายามที่จะผลักดัน ให้มีการระงับสื่อทุกชนิดที่เข้าข่ายโลลิคอน โดยเสนอรายงานที่มีใจความว่า 30% ของการ์ตูน X สำหรับผู้ใหญ่ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ หรือล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก ซึ่งแม้แต่วัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็สามารถเข้าถึงสื่อพวกนี้ได้ โดยการสั่งซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ต

นี่ยังไม่รวมถึงการ์ตูนแนวโชโจมังงะ(การ์ตูนผู้หญิง) ซึ่งบางเรื่องมีเนื้อหาสื่อถึงเด็กและเซ็กซ์อย่างชัดเจน แต่ บก. จากสำนักพิมพ์ก็ได้มาโต้แย้งว่า

ความรักและความรู้สึกเสน่หา (ความใคร่) เป็นส่วนประกอบสำคัญของโชโจมังงะ และมันเป็นไปไม่ได้ ที่จะเอากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศแยกออกมา เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความรัก
Love affair is a big theme in today's shojo manga. It's impossible to completely take out descriptions of sexual activity - that's just the result of love and affection.

คำพูดดังกล่าวนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากผู้พูดนั้นเห็นแก่เงิน หื่นกาม และเป็นโลลิคอน อย่างไรก็ตามพวกโลลิคอน(บางคน) พวกเกรียน(บางคน) และพวกเงี่ยน(หลายคน) ต่างมีความเห็นตรงกันว่า บก. ผู้นี้ตรัสไว้ดีแล้ว...

[ตัวอย่างภาพโลลิค่อน]
ขอขอบคุณ เว็บ Kazeyomi-Sub และคุณ Zerotop



วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ ภาคสาม

คำที่หนึ่ง [พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์]
เป็นอีกชื่อเรียกของ Zettai Ryuoiki โดยมีสูตรคำนวนดังนี้ 4:1:2.5 ความยาวกระโปรง : พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ : ความยาวของถุงเท้าเหนือหัวเข่าขึ้นไป
(โดยเพิ่มหรือลดได้ไม่เกิน 25%)

คำที่สอง [เซ็ตไต เรียวอิคิ]
พื้นที่ระหว่างถุงเท้ายาวที่เลยหัวเข่ากับกระโปรง มินิสเกิร์ตของผู้หญิง เป็นจุดแสดงความโมเอะอย่างนึง
(ตัวละครที่มีจะเพิ่มเสน่ห์ 30%)

คำที่สาม [ฮาเร็ม]
เรื่องแนวตัวเอกถูกล้อมรอบไปด้วยสาวตั้งแต่สองคนขึ้นไป แถมสาวแต่ละคนก็จะมารุมรักกันซะหมด เปรียบเหมือนสวรรค์บนดินก็มิปาน [Me น้ำหลายไหล]
(ตัวเอกแนวนี้มักจะถูกผู้ชมอิจฉาริษยา อาฆาตพยาบาท)

คำที่สี่ [แชนจ์]
การสลับเพศจากหญิงเป็นชาย จากชายเป็นหญิง ผู้ที่หลงไหลสายนี้บางคนอยากลองเปลี่ยนเพศได้เพื่อ...
(การเปลี่ยนทำได้ตั้งแต่การราดน้ำร้อนไปจนถึงการจาม)

คำที่ห้า [โอนี(Onii)]
พี่ชาย ถ้าเป็นโอนี(Onee)คือพี่สาว โดยสามารถเพิ่มคำลงท้ายได้ เช่น โอนีจัง[นิยมใช้มากที่สุด] , โอนีซามะ [ท่านพี่สาว/ชาย]
(สามารถเรียกสั้นๆได้ว่า นี หรือ โอนี ก็ได้)

คำที่หก [อนีคิ]
พี่[ผู้ชาย] ถ้าใช้ในวงการนักเลงจะมีความหมายว่า "ลูกพี่" ส่วน[อเนคิ] จะหมายถึงพี่ผู้หญิง และ อเนโกะ จะหายถึงผู้หญิงที่เป็น นักเลงหรือ ยากูซ่า

คำที่เจ็ด [สวิมสูท]
ชุดว่ายน้ำ กลุ่มที่ลุ่มหลงแนวนี้จะชอบหญิงสาวที่สวมชุดว่ายน้ำ ยามที่ชุดเปียก จะเปล่งประกายมันวาว ดึงดูดใจยิ่งนัก
(พลังของชุดว่ายน้ำไม่ว่าชายใดก็ต้องชอบทั้งนั้น)

คำที่แปด [เชิร์ต]
กลุ่มที่ลุ่มหลงแนวนี้จะชอบหญิงสาวที่ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆแขนยาวๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเด็กน้อยที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่
(ชุดนอนตัวใหญ่ๆโปร่งๆก็เข้าข่ายด้วยเช่นกัน)

คำที่แปด [เมเด็น]
หญิงสาว เป็นคำอังกฤษแท้ๆ มีความหมายเท่ากับคำว่า girl หรือ lass ใช้คู่กับคำอื่นจะบ่งบอกถึงสตรีเพศ
(เช่น Rozen-Maiden,Iron Maiden)

คำที่เก้า [กอธิค]
ชุดแบบยุคศตวรรษที่ 18 ของยุโรป มีโบว์และกระโปงใหญ่ๆ พวกที่ชอบแนวนี้จะลุ่มหลงสาวน้อยในชุดฟู่ฟ่า เหมือนกับการหลงไหลในดนตรีคลาสสิก
(โอตาคุกลุ่มนี้มักชอบของที่มีระดับ)

คำที่สิบ [กิโมโน]
ชุดแต่กายประจำชาติของญี่ปุ่น นิยมใส่ในโอกาสพิเศษ กลุ่มคนที่ลุ่มหลงในสาวน้อยกิโมโนจะเป็นพวกชอบสาวเรียบร้อยเป็นกุลสตรี
(ชุดกิโมโนมีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน [ค.ศ. 794 - 1192])

คำที่สิบเอ็ด [อีนโจว์(Iinchou)]
หัวหน้า ตัวละครที่รับบทเป็นหัวหน้า [ทั้งตั้งใจและยัดเยียด] มีปมด้อยเรื่องชื่อ โดยคนในห้องจะเรียกแต่ หัวหน้าๆ จนลืมชื่อจริง
(บางครั้งเป้นแค่รองหัวหน้ากลับยังมีคนเรียกหัวหน้าอยู่อีก)

คำที่สิบสอง [แซดเดอร์]
โมเด็ลในตำนานของเซเบอร์ เป็นโมเด็ลก๊อปปี้ที่ผลิตในประเทศจีน ลักษณะเด่นคือ ตาเข ปากเบี้ยว น่าอกบวม และที่สำคัญ ดาบต้องดัดเป็นลวดซึ่งแต่ละกล่องจะไม่เหมือนกันอีกด้วย!~

คำที่สิบสาม [ดารุเดเระ]
ลักษณะท่าทีที่แสดงออกถึงความเบื่อหน่าย เวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบมักจะทำท่าทาง เฉยๆ หรือ เบื่อหน่าย เซ็งๆ
(มาจากคำว่า Darui แปลว่าไม่มีแรง,อ่อนแรง กับ Dere Dere แปลว่าโอนอ่อนต่อความรัก)

คำที่สิบสี่ [สตอล์กเกอร์]
บุคคลที่กระทำการติดตามหรือย่องตาม สิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยจะพยายามไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว

คำที่สิบห้า [OS-TAN]
ชื่อเรียกตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ซึ่ง OS ย่อมาจาก Operating System ในปัจจุบันถูกสร้างออกมามากมาย เช่น ME-TAN , XP-TAN ไปจนถึงFedoras-TAN

คำที่สิบหก [เมชช่า]
รูปแบบหุ่นยนต์,รูปแบบเครื่องจักร หรือ รูปแบบโปรแกรม ผู้ชื่นชอบสาวน้อยหุ่นยนต์ที่จะเชื่อฟังคำสั่งและคอยรับใช้เรา
(คำเตือน บางรุ่นกันนำไม่ได้และอาจจะช็อตคุณ)

คำที่สิบเจ็ด [จืดจาง]
ตัวละครมีบทน้อย , นานๆมีบทสักครั้ง หรือเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก
ใกล้เคียงกับพวกตัวประกอบ
(เรื่องไหนที่มีตัวละครเป็นหลักโหลมักจะมีตัวละครเคราะห์ร้ายที่จะได้เป็นตัวละครจืดจาง)

คำที่สิบแปด [ฟัทสุ]
ธรรมดาหรือปกติ ไม่มีอะไรโดดเด่นไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกมองข้ามเสมอ อาจเพราะตัวละครอื่นเด่นกว่า ทำให้ตัวละครกลุ่มนี้กลายเป็นตัวประกอบไป

คำที่สิบเก้า [เรน-ไอ]
ความรักใคร่ ถ้านำไปใช้ร่วมกับเกมส์ก็จะเป็น เรน-ไอ เกมส์ ก็จะเป็นประเภทเกมส์จีบสาว ซึ่งเกมประเภทนี้จะไม่ต้องมีฉาก H เสมอไป

คำที่ยี่สิบ [Wii]
เครื่องเล่นเกมส์จากนินเทนโดมีจุดเด่นที่ตัวอุปกรณ์ควบคุม
ที่เรียกว่า Wii Remote ทำหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวแล้วส่งข้อมูลให้ตัวเครื่อง อีกตีวคือ Nunchuk ที่ทำหน้าที่ควบคุมทิศทาง

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ ภาคสอง

คำที่หนึ่ง [กระดาน]
ไม่มีหน้าอก หรือ มีน้อย แต่มีเสน่ห์ในตัวเอง ถือว่าเป็นแรร์ไอเท็มหาได้ยากยิ่ง
(เป็นที่ชื่นชอบของพวกมักน้อย และ รักเด็ก)

คำที่สอง [โชเนียว]
พวกที่นิยมผู้หญิงหน้าอกใหญ่ๆ ถึงใหญ่มากจนโอเวอร์ ตั้งแต่คัฟ G - Z!!!
(พวกนี้จะต่อต้านกระดานอย่างมาก)

คำที่สาม [ซึนเดเระ]
 พวกที่เย็นชา ปากร้าย แต่เมื่อรักใครจะไม่แสดงออกต่อคนคนนั้น แต่จะอ่อนโอนต่อคนคนนั้น ประมาณว่า "รักนะแต่ไม่กล้าบอก"
(มาจากคำว่า ซึนซึน [เจ้าอารมณ์,ปากร้าย] กับ เดเระเดเระ [อ่อนโอนต่อความรัก])

คำที่สี่ [เอ๋อ]
อาการที่แสดงออกถึงความไม่ประสีประสาและมักจะทำสิ่งต่างๆผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง
(ผู้ที่ป็นจะเพิ่มความน่ารัก 30%)

คำที่ห้า [ดุ้น]
ส่วนที่เกินออกมาบ่งบอกถึงเพศชาย ชายที่มีหน้าตาสวยน่ารักมักจะถูกเรียกว่า [สาวดุ้น]
(สาวดุ้นมักจะมีเสน่ห์มากกว่าสาวแท้แบบไม่มีเหตุผล)

คำที่หก [มาโฮะ]
เวทย์มนต์ โดยผู้ที่หลงใหลส่วนใหญ่จะชื่นชอบสาวน้อยที่มีพลังเวทย์หรือไอเท็มเวทย์มนตร์ต่างๆคอยผดุงความยุติธรรม
(จุดที่น่าหลงไหลคือความเก่งกาจของพวกเธอ)


คำที่เจ็ด [ฮิเมะ]
โดยจะเป็นหญิงสาวที่สูงศักดิ์ กิริยามารยาทเรียบร้อย รักศักดิ์ศรี แต่โดยลึกๆแล้วพวกเธออยากเป็น
หญิงสาวธรรมดา...
(ผู้ที่ชื่นชอบกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกอยากปกป้อง)

คำที่แปด [จิบิ]
เล็กๆ น้อยๆ เป็นรูปแบบหนึ่งซึ่งตัวละครแนวนี้จะตัวเล็กๆ น่ารักๆ น่ากอด คอนเซ็ปคือหัวโตตัวเล็ก
ฝรั่งเรียก มินิ

คำที่เก้า [ยานเดเระ]
บุคคลิกปกติจะแสดงออกถึงความรัก แต่เมื่อหึงหวงหรือปวดใจ จะแสดงความรุนแรงและโหดร้านออกมาแทน เช่น หึงแล้วทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น ประมาณว่า "รักแต่โหด" ยานเดเรโกะ ใช้เรียกหญิงสาวที่มีอาการแบบนี้

คำที่สิบ [ไซโค]
ลักษณะผิดปกติทางจิต เกิดการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง
มักแสดงพฤติกรรมที่น่ากลัวเช่น ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น หรืออาจจะ ฆ่าคนได้
(หากผู้ใดมีสิ่งนี้จะเพิ่มความน่ากลัวได้ 30%)

คำที่สิบเอ็ด [สลีป]
ตัวละครที่ไม่ค่อยพูด มักจะเป็นสาวปากหนัก ไม่แสดงอารมณ์เหมืแนกับหุ่นยนต์ แต่มีกลุ่มคนที่รักและเทิดทูนเธอ เสน่ห์ที่สำคัญที่สุดคือยาพวกเธอยิ้ม [เพราะไม่เกิดขึ้นบ่อนัก]

คำที่สิบสอง [ฮิคิโคโมริ]
พวกที่แยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวอยู่ในห้องนานเป็นปี และ พอใจที่จะอยู่คนเดียว มักเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นที่มีการแข่งขันสูง ที้งเร่องเรียนและเรื่องงาน
(เรียกย่อๆว่า [ฮิกกี้])

คำที่สิบสาม [เอสเปอร์]
ผู้ที่มีพลังจิต แบ่งความสามารถออกได้เป็น
-เทเลไคเนซิส พลังในการเคลื่อนย้ายวัตถุ
-เทเลพอร์ท ทำให้วัตถุหายไปแล้วไปยังที่ใหม่
-เทเลพาที ความสามารถในการอ่านความคิด
(ชื่อย่อของเอสเปอร์คือ [ESP])

คำที่สิบสี่ [นิวไทป์]
ผู้ที่มีความสามารถในการหยั่งรู้สิ่งต่างๆล่วงหน้า และมีความสามรถในการใช้พลังจิต โดยจะต้องเกิดในอวากาศเท่านั้น
(นิวไทป์ ไม่สามารถแพร่ไปหาบุคคลใกล้ชิดได้)

คำที่สิบห้า [ทวิน]
ฝาแฝด ทั้งแท้และไม่แท้ ผู้ลุ่มหลงสายนี้จะชอบสาวแฝด โดยแม้จะหน้าตาเหมือนกัน แต่กริยาท่าทางมักจะต่างกัน นับเป็นจุดเด่นของสายนี้เลยทีเดียว
(สายแห่งทางกำไร [รักหนึ่งได้ถึงสอง])

คำที่สิบหก [โชตะคอน]
ผู้ที่ชอบเด็กชาย หลงไหลเด็กอายุน้อยกว่า อาจเป็นความน่ารักใสซื่อของเด็กหนุ่มที่มัดใจคนกลุ่มนี้ได้
(แม้จะเป็นเด็กผู้ชายก็โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ได้เหมือนกัน)

คำที่สิบเจ็ด [อ็อด อาย]
ตัวละครที่มีตาสองสี ข้างซ้ายและข้างขวาไม่เหมือนกัน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งทำให้เกิดจุดเด่นของตัวละคร

คำที่สิบแปด [เคโมโนะ]
ครึ่งคนครึ่งสัตว์ พวกที่ชอบแนวนี้จะลุ่มหลงสาวน้อยที่มีอวัยวะของสัตว์อยู่ด้วย เช่น หาง,หู,เขา,ปีก ฯลฯ
(บางคนมองแมวหรือสุนัขของตัวเองแล้วอยากให้เป็นสาวน้อยแบบนี้ก็มี)

ศัพท์แห่งศาสตร์โอตาคุ

คำแรก [โอตาคุ]
กล่มคนที่รักและเทิดทูนการ์ตูนหรือตัวละครต่างๆ เป็นผู้มีจินตนาการสูง ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม มีความสนใจหญิง/ชาย จริงน้อยกว่าอนิเมะ

คำที่สอง [ทวินเทล]
ทรงผมแบบหนึ่งจะมีการมัดและจัดให้เหมือนหางม้า จะอยู่ตำแหน่งซ้ายและขวาของศรีษะ การทำทรงผมนี้จะทำให้มีความคล่องตัวสูง (ส่วนมากคนทำทรงผมนี้จะเป็นพวกซึนเดเระ)

คำที่สาม [โมเอะ]
สิ่งที่แสดงถึความน่ารักของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นน่าตา คำพูด หรือ กริยา

คำที่สี่ [โลลิค่อน]
พวกที่รักเด็กสาวน่ารักจนเกินกว่าปกติ ซึ่งมีช่วงอายุ 14 ปี ลงมามีความสูงไม่เกิน 150 ซม.
(พวกนี้มีความเสี่ยงสูงต่อข้อหาพรากผู้เยาว์)

คำที่ห้า [มิโกะ]
หญิงสาวพรมจรรย์ในชุดขาวแดง ผู้ที่ทำพิธีการต่างๆให้แก่ศาสนาชินโต อาศัยอยู่ที่ศาลเจ้า
อุปกรณืของมิโกะจะมีเครื่องรางและไม่ไล่ผี
(สำคัญคือมิโกะจะไม่ใส่ชุดชั้นใน...)

คำที่หก [เมด]
ผู้ที่ชื่นชอบและหลงไหลในเสน่ห์ของผ้ากันเปื้อนและอยากให้มีคนมาคอยปฏิบัติ ดูแล ประโยคเด็ดคือ [นายท่านคะ]
(หญิงสาวที่ใส่ชุดสาวใช้เสน่ห์จะเพิ่มขึ้น 50%)

คำที่เจ็ด [เนโกะมิมิ]
คุณลักษณะของแมว เช่นมีหูแมว หางแมว ขี้อ้อน ร้องเหมียวๆ กลุ่มที่หลงไหลสาวเนโกะมิมิ[เราเอง]จะชื่นชอบหูและหางที่เอ็นดู น่าหยอกเล่น น่าลูบ น่าจับ
(แค่เสียงร้องเหมียวของสาวน้อยก็จะเพิ่มความน่ารักได้ 30%)

คำที่แปด [อินุมิมิ]
คุณลักษณะของสุนัข เช่น มีหู มีหาง เป็นสุนัข ความเชื่อฟังเจ้าของ กลุ่มที่หลงไหลอินุมิมิจะชื่นชอบหูและหางที่กระดิกชวนให้เข้าไปลูบหัว
(กลุ่มคนพวกนี้จะเป็นพวกรักสัตว์อยู่แล้ว)

คำที่เก้า [โอจิคอน]
พวกที่หลงรักชายสูงอายุ กลุ่มนี้ชื่นชอบเพราะดูน่าเชื่อถือ มีความเป็นผู้นำสูง และ อบอุ่น
(หญิงสาวกลุ่มนี้เหมาะจะเข้าคู่กับพวก โลลิค่อน)

คำที่สิบ [โอบาคอน]
ผู้ที่ชอบผู้หญิงอายุมากกว่า พวกนี้ต้องการคนที่พึ่งพิงได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับโลลิค่อนที่ชอบสาวน้อยขี้อ้อน
(ระดับมีตั้งแต่ พี่ ป้า น้า อา โดยอาจลามไปถึง ย่า ยาย เลย)

คำที่สิบเอ็ด [กุโระ]
เลือดสาด ปาดคอหอย สอยม้าม จามหัว รัวสับ จับชำแหละ...
เป็นสายแห่งเลือดและความโหด
(อักษรย่อคือ G)

คำที่สิบสอง [เอ็สเอ็ม]
พวกที่ชอบความเจ็บปวดแยกได้เป็นสองกลุ่มหลัก คือ
-เอ็ส[Sadism] พวกที่ชอบทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด
-เอ็ม [Masochism] พวกที่ชอบรับความเจ็บปวด
(เพื่อความสะใจควรใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วย)

คำทีสิบสาม [เมกามิ]
เทพธิดา,นางฟ้า กลุ่มคนพวกนี้จะชอบชาวสวรรค์ที่ไร้มลทิน ดูบริสุทธิ์ พวกเธอมักมีวงแหวนที่หัวหรือปีกด้วย
(บางครั้งนางฟ้าอาจจะมีนิสัยเหมือนปีศาจก็ได้)

คำที่สิบสี่ [เมกาเนะ]
พวกนิยมคนสวมแว่นตา และแว่นตาถือเป็นสุดยอดที่จะทำให้ผู้ใส่น่ารักขึ้น 100%!!!
(คอนแท็กเลนสืเป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับคนกลุ่มนี้)

คำที่สิบห้า [อุซากิมิมิ]
หูกระต่าย สาวน้อยที่ใส่หูกระต่ายจะช่วยเพิ่มความน่ารักได้
ฝรั่งจะเรียกว่า บันนี่เกิร์ล
เรียกย่อๆว่า อุซามิมิ

คำที่สิบหก [Ahoge(อโฮเงะ)]
ปอยผมที่กระเซิงออกมาเป็นเหมือนเสาอากาศ โดยจะแสดงถึง ความฉลาดน้อย ซุ่มซ่าม ปำๆเป๋อๆ หรอ ติงต๊องหน่อยๆ
(ระดับความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนและขนาดของ Ahoge)

ขอขอบคุณ เว็บ Akibakko มากเลย ในการให้ข้อมูล
ยังมีต่ออีกนะครับ แล้วส่วน ยูริ กับ ยาโอย จะเอาไว้ในกลุ่มติดเรทนะครับ
แล้วเจอกันครับ

ดีจ้า!!!~

นี่คือบล็อกแห่ง โอตาคุ นะ~
ฝากตัวด้วยนะครับ~
บล็อกนี้จะเขียนเกี่ยวกับอนิเมะ มังงะ และ พวกโอตาคุนะครับ