My Blog / My Girl / My Cat

My Blog / My Girl / My Cat

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ประวัติโอตาคุ~

คำว่าโอตาคุ (オタク) ในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า Taku ซึ่งแปลว่าบ้าน ซึ่งเป็นคำสุภาพ หลังๆเริ่มเพี้ยนความหมายมาเป็นเช่นเดียวกับคำว่า Mania ที่แปลว่าผู้ที่คลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะมักใช้กับพวกที่บ้าการ์ตูนซะมากกว่า เป็นความหมายที่ค่อนข้างไม่ดีภาพพจน์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เมื่อให้ Image จะได้ประมาณว่า เพศชาย ตัวอ้วนๆ สิวเขรอะๆ ใส่แว่น ผมเผ้ารุงรังไม่สระผม กลิ่นเหงื่อโชย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แบกเป้ จริงๆแล้วโอตาคุไม่จำเป็นต้องมีลักษณะที่กล่าวไว้ก็ได้ หน้าตาดีก็มี และก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย เพียงแต่ไอ้ส่วนของโอตาคุผู้ชายจะเยอะกว่ามากนั่นเอง

ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง "เด็ก" ผู้หญิงในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป พวกนี้จะคิดว่า "เด็ก" ผู้หญิงที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น

พวกนี้คือ Otaku2p ยกระดับ ชาตินี้มันจะไม่สนผู้หญิงจริงๆ แล้ว (แต่จริงๆ คือผู้หญิงไม่สน) โดยมันจะเฝ้าบูชาสาวน้อยจาก Anime อย่างถวายหัว


2p ย่อมาจาก Two Parry หมายถึง หลีกหนีแล้วซึ่งความจริงทุกประการ โอตาคุเหล่านี้จะมีอาการนับถืออนิเมขึ้นสมอง หากมีใครมากล่าวว่าร้ายแก่อนิเมเรื่องโปรดจะเกิดอาการโกรธลุกเป็นไฟจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ โอตาคุเหล่านี้จะคุยกับคนธรรมดาไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเขาจะพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่อาจแกะข้อความออกมาได้

สมองส่วนใหญ่ของโอตาคุเหล่านี้ จะใช้จดจำแต่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างเต็มแน่นเอี๊ยด ซึ่งอาจไม่มีเรื่องที่มีสาระอยู่เลย

ในทางด้านบวกนั้น โอตาคุ อาจหมายถึงแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งมีความรู้ความสามารถ สามารถจดจำในสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก ( อกหัก , สาวไม่แล ) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง

วิธีสังเกตโอตาคุ


ไม่สนใจผู้หญิงอื่น นอกจากนางในฝันในอนิเมเท่านั้น

จะก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนลูกเดียว โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าเดินไปอ่านไปก็ไม่สนใจว่าจะเดินชนใคร

ถ้าชวนคุยเรื่องการเมือง ก็จะเอากันดั้มมาอ้าง ถ้าชวนคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดคอสเพลย์ ไม่ก็ชุดเมด บลาๆๆ

ถ้าชี้ให้ดูเด็กผู้หญิง ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L (Lolicon) และ Y (Yaoi,Yuri)

แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป

ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่

ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่

มากกว่า 50% ของพื้นที่ในคอมจะมีแต่เรื่องเกมส์และอนิเม นอกนั้นเป็นระบบปฏิบัติการ และ MS Office

สะพายกระเป๋าใบเบ้อเริ่ม.. ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้นักหนา

แต่งตัวเชยๆ บ้างก็ใส่แว่น ชอบหลบหน้าผู้คน

คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ "

ขาด การ์ตูนไม่ได้ เหมือนขาดอาหาร...

คิดถึงเรื่อง การ์ตูนเกือบ 75% ของความคิดทั้งวัน

แต่งแฟนฟิค แต่งคอส เขียนโดจิน วาดแฟนอาร์ต <<<ทำอะไรซักอย่างใน 4 อย่างนี้ ทำแน่ๆสาบาน อาจทำครบทั้ง 4 ข้อเลยก็ได้

มีการ์ตูนที่ชอบที่สุดแบบยกย่องเทิดทูนคลั่งไคล้อยู่อย่างน้อยสามเรื่อง

มีตัวละครที่รักสุดๆในชีวิตเป็นหนึ่งเลย และมีประปรายอีกเยอะ=

สละเงินซื้อของการ์ตูนได้ไม่มีเสียดายเลย เงินกินข้าวของทั้งเดือนก็ยอม! (ไปตายเอาดาบหน้า การ์ตูนข้ามาก่อน!!)

ถ้านึกอยากได้อะไรขึ้นมาก็จะซื้อเลยโดยแทบไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
รอบรู้เรื่องการ์ตูนไป (เกือบ) ทุกอย่าง ตามข่าวการ์ตูนไวมาก ใช้ภาษาโอตาคุ

เกลียดพวกสามมิติ (ดารา วงการบันเทิง น้ำเน่า) บางคนอาจเฉยๆหรือแค่รำคาญ แต่จะไม่สนใจพวกนี้เลย

ไม่มีแฟน (เรารักตัวการ์ตูนก็พอ!)

คลุกคลีกับการ์ตูน นั่งดู + อ่านได้ทั้งวัน ข้าวปลาลืมกินก็มี

เคยโหลดพวกสแกนคอมมิค แฟนซับ บิทอนิเม อย่างน้อยสิบครั้ง

เชิดชูอากิฮาบาร่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์

เกิดความรู้สึกโมเอะ (สุขใจสุดๆเหมือนไฟในตัวลุกโชน) เมื่อได้อยู่ในที่ๆมีการ์ตูน ได้ดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูน

เมื่อดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูนจะดูเหมือนหลุดไปอีกโลกนึง

ไปงาน Event การ์ตูนได้แทบทุกงานไม่มีขาด และหอบข้าวของที่ซื้อมาเป็นประจำ

จะพูดไม่หยุดเมื่อพูดถึงการ์ตูน

สามารถดูอนิเมได้ทั้ง season (เผลอๆ อาจ 2 seasons) ได้ในเวลาวันเดียว

ในห้องจะเต็มไปด้วยการ์ตูน ทั้งของสะสม หนังสือการ์ตูน อนิเม ฟิกเกอร์ การาจคิท โปสเตอร์ และอีกสารพัด

อ่าน&ดูการ์ตูนแบบจริงจังอย่างน้อย เกือบทุกเรื่องที่รู้จัก(โอตาคุจะรู้จักการ์ตูนโดยเฉลี่ยคนละ 100 เรื่อง ถึงจะคิดว่าไม่มากขนาดนั้นมั้ง?แต่ถ้าจับมานั่งลิสต์ซักพัก ดีไม่ดี อาจเกิน 100 ด้วยซ้ำไป)

ซื้อการ์ตูนหรือเกม(หรือแม้แต่ไลท์โนเวล)ที่ชอบคราวละ 3 ชุดขึ้นไป (ชุดแรกไว้ดู/เล่น ชุดที่สองไว้เก็บสะสม ที่เหลือไว้ให้คนอื่นๆยืมหรือแจกจ่ายเพื่อเพิ่มจำนวนสาวก!)

ที่อาจจะเป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้คือถ้าเขาเป็นนักเขียนเสียเองและเพิ่งได้เผยแพร่เป็นเรื่องแรก อันนี้ให้พึงเข้าใจว่าแค่เห่อ

อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมทางสังคมยังมีอยู่ สาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนนั้นคลั่งไคล้เรื่องนี้ถึงขนาดตีพิมพ์ภาคนิยายไว้แจกฟรี รวมถึงได้รวมตัวกันจัดมีตติ้งทุกวันอาทิตย์ แต่ไม่มีใครเรียกสาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนว่าโอตาคุเลย

*ข้อควรสังเกต โอตาคุที่หมั่นแจกจ่ายหรือให้คนอื่นๆยืมสมบัติเป็นนิจนั้น จะไม่เป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง

ที่มาจาก ไร้สาระนุกรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น